ระบบการศึกษาทั่วไป
ภายใต้รัฐธรรมนูญของแคนาดา ถือว่าการศึกษาเป็นความรับผิดชอบของมณฑลนั้นๆ คือแต่ละมณฑลจะมีระบบการศึกษาของตนเอง แต่ทั้งนี้มาตรฐานการศึกษาจะต้องสูงเท่าเทียมกันทุกมณฑล เนื่องจากแคนาดาจะให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษาเป็นอย่างมาก โดยรัฐบาลจะมีเงินทุนช่วยเหลือให้กับสถาบันการศึกษา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ค่าเรียนในแคนาดาค่อนข้างต่ำ
โดยทั่วไปแล้วนักเรียนชาวแคนาดาจะเข้าโรงเรียนอนุบาลเมื่อมีอายุครบ 4 5 ปี และใช้เวลาเรียน 1 2 ปี ทั้งนี้แล้วแต่สมัครใจ เมื่อมีอายุครบ 6 ปี จะต้องเข้าเรียนชั้นเกรด 1 โดยปกติโรงเรียนจะเริ่มปีการศึกษาตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนมิถุนายน โรงเรียน มัธยมศึกษาจะมีไปจนถึงเกรด 11, 12 หรือ (OAC) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับมณฑลนั้นๆ เพื่อศึกษาต่อยังมหาวิทยาลัยวิทยาลัย หรือ CEGEP ของควิเบค
โอกาสของนักเรียนไทยในการเข้าไปศึกษาในประเทศแคนาดา
โดยเฉลี่ยแล้ว "หลักเกณฑ์การตอบรับเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยหรือวิทยาลัยมีเกณฑ์การรับค่อนข้างสูง สำหรับนักเรียนไทยทั่วๆ ไป และสถาบันแต่ละแห่งจะได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับการจำกัดที่นั่งในการเรียนสำหรับนักศึกษาต่างชาติ แต่นักศึกษาไทยก็ยังมีโอกาส ซึ่งอาจทำได้โดย
1. ในระดับปริญญาตรี นักศึกษาควรสมัครเข้าเรียนวิทยาลัยในหลักสูตร University Transfer Program ระยะเวลา 2 ปีก่อน แล้วทำคะแนนให้ดี หลังจากนั้น Transfer เข้ามหาวิทยาลัยซึ่ง College นั้นๆ มีโปรแกรมร่วมกันอยู่ และเรียนต่ออีก 2 ถึง 3 ปี ก็สำเร็จปริญญาตรี ซึ่งวิธีนี้จะทำได้ง่ายกว่าสมัครตรงเข้าไปใน มหาวิทยาลัย ส่วนคะแนนภาษาอังกฤษ สำหรับเข้าศึกษาระดับปริญญาตรีนั้น คือ คะแนน TOEFL 550 ขึ้นไป
2. สำหรับระดับปริญญาโท สถานศึกษาต้องการคะแนนเฉลี่ยสะสม หรือ GPA ประมาณ 2.5 3.0 หรือใกล้เคียงคะแนน TOEFL ประมาณ 550 600 ในกรณีที่ได้คะแนนไม่ถึงตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด นักศึกษาอาจสมัครเข้าเรียนภาษาในมหาวิทยาลัยที่ต้องการจะเข้าศึกษาในช่วงเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายน เมื่อเรียนภาษาไปประมาณ 4 5 เดือนแล้ว มหาวิทยาลัยก็จะรู้จักนักศึกษาดีขึ้น จะช่วยให้การสมัครเข้าศึกษาทำได้ง่ายขึ้น
ส่วนการสมัครเข้าศึกษาวิชาบริหารธุรกิจในระดับปริญญาโท หรือ MBA นั้น นักศึกษาไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ในการทำงานแต่ต้องมีคะแนน TOEFL 550 600 โดยเฉลี่ยสถานศึกษาจะรับคะแนน TOEFL ประมาณ 570 ส่วนคะแนน GMAT โดยเฉลี่ย 550
สำหรับผู้ที่ต้องการไปเรียนภาษาก่อน สามารถสมัครได้ทั้งในสถาบันภาษาของเอกชนและรัฐบาล สำหรับสถาบันภาษาของเอกชน กระทรวงศึกษาธิการของประเทศแคนาดา เป็นผู้ควบคุมดูแล จึงมีมาตรฐาน เท่าเทียม กันทั้ง ของรัฐและเอกชน จะแตกต่างกันที่ค่าเล่าเรียน และหลักสูตรเท่านั้น เช่น สถาบัน ภาษาของเอกชน จะเปิดรับ ทุกเดือน ตลอดปี และมักจะเปิดเรียนในวันจันทร์แรกของเดือน แต่สถาบันภาษาในมหาวิทยาลัยจะเปิดเรียนเป็นช่วงๆ เท่านั้น
นอกจากนี้บางสาขาวิชา เช่น สาขาแพทยศาสตร์หรือนิติศาสตร์ จะไม่เปิดรับนักศึกษาต่างชาติเข้ารับการศึกษาในหลักสูตรปริญญาวิชาชีพในระดับแรก เนื่องจากมีการจำกัดจำนวนผู้เข้าเรียน และนักศึกษาแคนาดาเองก็สมัครเข้าศึกษาเป็นจำนวนมาก จึงไม่สามารถเปิดรับสมัครนักศึกษาต่างชาติ เข้าเรียนได้ แต่สำหรับการศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษาหรือปริญญาโทขึ้นไปนั้นไม่มีข้อจำกัด สำหรับนักศึกษาต่างชาติ
ปีการศึกษา
การรับเข้าเรียน มี 2 ช่วง คือ เดือนกันยายน และต้นเดือนมกราคม / ต้นเดือนกุมภาพันธ์ แต่โรงเรียนบางแห่งจะยืดหยุ่นให้กับนักเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักศึกษาต่างชาติในการรับสมัครเรียน ซึ่งอาจเปิดรับตลอดปีหรือปีหนึ่งหลายๆ ครั้งก็ได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละโรงเรียนนักเรียนต่างชาติที่สนใจและต้องการข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาในระดับประถม และมัธยม หากต้องการศึกษาในโรงเรียนรัฐบาลควรติดต่อไปยังกระทรวงศึกษาที่รับผิดชอบ เกี่ยวกับการรับนักเรียนต่างชาติเข้าศึกษา หรือนักเรียนจะติดต่อโดยตรงไปยังสำนักงานกลาง ของแต่ละโรงเรียน เพื่อขอรับใบสมัครรวมทั้งระเบียบการต่างๆ ในการสมัครเข้าเรียนได้
การศึกษาต่อจากระดับมัธยมศึกษา มีหลายแบบคือ
- Community College หมายถึง สถาบันที่ทำการสอนทักษะทางวิชาชีพต่างๆ เช่น College of Applied Arts and Technology ซึ่งมีอยู่หลายแห่งในแคนาดา สถาบันเหล่านี้มีสาขาวิชาให้เลือกมากมายและค่าธรรมเนียมการศึกษาก็ไม่สูงจนเกินไป ระยะเวลาในการศึกษาประมาณ 3 ปี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจบการศึกษาให้เร็ว หรือผู้ที่มีเวลาน้อยในการเรียน
สาขาวิชาที่เปิดสอนคือ
- การศึกษาทางด้านศิลปะและเทคโนโลยี
- หลักสูตรวิชาชีพเพื่อนำไปประกอบอาชีพในด้านการค้าอุตสาหกรรม และหลักสูตรกึ่งวิชาชีพ เช่น บริหารธุรกิจ สาธารณสุขศาสตร์ ศิลปศาสตร์ และสังคมศาสตร์ เป็นต้น
- หลักสูตรการศึกษาสำหรับพัฒนาทักษะในการเรียน การใช้ภาษาทั้งภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส
โดยทั่วๆ ไป หลักสูตรประกาศนียบัตรและอนุปริญญาจะมีการเรียนการสอนในระดับวิทยาลัยเท่านั้น ไม่มีการศึกษา ระดับนี้ที่ มหาวิทยาลัยบางหลักสูตรสามารถเทียบโอนไปยังมหาวิทยาลัยบางแห่งได้ การเทียบโอนแต่ละที่จะมีระเบียบการโอน แตกต่างกันไป ดังนั้นนักศึกษาโปรดตรวจสอบไปยังมหาวิทยาลัยที่จะทำการเทียบโอนหน่วยกิตด้วยตนเอง โดยต้องส่ง curriculum (หลักสูตรการศึกษา) และ Course description (รายละเอียดวิชา) ไปด้วย
- มหาวิทยาลัย (University)
ภาคเรียนแรก จากเดือนกันยายน ถึงเดือนธันวาคม
ภาคเรียนที่สอง จากเดือนมกราคม ถึงเดือนเมษายน
บางมหาวิทยาลัยจะเปิดภาคฤดูร้อน (Summer) (พฤษภาคม / กรกฎาคม / สิงหาคม) นักศึกษาแดนาดาส่วนใหญ่จะไม่นิยมเรียนในช่วงนี้
ระยะเวลาของการศึกษาในแต่ละหลักสูตร
1. หลักสูตรระดับปริญญาตรี (Bachelors degree)
โดยปกติจะใช้เวลาในการเรียนประมาณ 3 5 ปี ในแคนาดาจะมีหลักสูตรปริญญาตรีอยู่ 2 ประเภท คือ General Pass Degrees และ Honours Degree ในหลักสูตร Honours Degrees นี้ นักศึกษาจะต้องเรียนเพื่อให้มีหน่วยกิจมากกว่าหลักสูตรแบบ General Pass Degrees และจะต้องเขียนวิทยานิพนธ์ด้วย หากนักศึกษาคิดจะศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ควรเรียนในหลักสูตรประเภท Honours Degrees ในมหาวิทยาลัยบางแห่ง การเรียนหลักสูตรปริญญาตรีประเภท Pass Degrees ใช้เวลาเพียง 3 ปี และหลักสูตรปริญญาตรีประเภท Honours ใช้เวลาในการศึกษา 4 ปี แต่ในมหาวิทยาลัยบางแห่งหลักสูตรทั้ง 2 ประเภท จะใช้เวลาในการศึกษาเท่า ๆ กันคือ 4 ปี ส่วนหลักสูตรที่ใช้เวลามากกว่า 5 ปี เช่น หลักสูตรวิชาชีพ จะต้องมีการฝึกงาน โดยการร่วมมือกันระหว่างมหาวิทยาลัย และหน่วยงานที่นักศึกษาจะไปฝึกงาน สำหรับหลักสูตรที่จำเป็นต้องฝึกงาน คือ หลักสูตรบัญชี สถาปัตยกรรมศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์
2. หลักสูตรปริญญาโท (Masters degree)
โดยปกติจะใช้เวลาในการเรียนประมาณ 1.5 2 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละสถาบันและนักศึกษาจะต้องเรียนพื้นฐานของแต่ละหลักสูตรและจะต้องทำการสอบ ความเข้าใจ Comprehensive Examination (สอบประมวลความรู้) หรืออาจจะต้องทำการวิจัยหรือเขียนรายงานวิทานิพนธ์หรือจะต้อง เรียนวิชาพื้นฐานของแต่ละหลักสูตรพร้อมกับเขียนวิทยานิพนธ์ด้วยก็ได้ และงานวิจัยหรือวิทยานิพนธ์นี้ จะสามารถนำไปศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกได้อีกด้วย
3. หลักสูตรปริญญาเอก (Doctoral หรือ Ph.D. Degree)
ใช้เวลาในการศึกษาอย่างน้อย 2 ปี หลังปริญญาโท หรือ 3 ปี หลังปริญญาตรี แต่อย่างไรก็ตามนักศึกษาต้องใช้เวลาเฉลี่ยอย่างน้อย 3 ถึง 5 ปี หลังจากจบปริญญาโท หลักสูตรปริญญาเอกนี้จะประกอบด้วยวิชาพื้นฐาน การร่วมสัมมนาทางวิชาการ การค้นคว้างานวิจัย การเขียนรายงานวิชาการ การนำเสนอ และการเขียนวิทยานิพนธ์เป็นต้น
การศึกษาภาคปฏิบัติ (Co op Education)
การศึกษาภาคปฏิบัติหรือการฝึกงานเป็นส่วนหนึ่งของระบบการศึกษา โดยสถาบันการศึกษาได้ร่วมมือกับสถานประกอบการทางธุรกิจต่างๆ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ปฏิบัติงานจริง เพราะหากนักศึกษาสำเร็จการศึกษาแล้ว แต่ขาดประสบการณ์ในการทำงาน อาจทำให้หางานทำได้ยาก ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหานี้สถาบันการศึกษาต่างๆ จึงมีหลักสูตรการฝึกปฏิบัติงานในหลายสาขา ดังนั้น นักศึกษาจึงต้องเรียนในหลักสูตรภาคปฏิบัติในสาขาวิชาที่ตนเรียนอยู่ ระยะเวลาในการฝึกงานประมาณ 2 ภาคการศึกษาก่อนที่จะไปทำงานตามที่ทางมหาวิทยาลัยจัดไว้ และจะใช้เวลาประมาณ 3 4 ภาคการศึกษาฝึกงานในหลักสูตร 5 ปีของระดับปริญญาตรีก่อนที่จะสำเร็จการศึกษา
การศึกษาระบบนี้ เป็นที่สนใจของนักศึกษามาก ดังนั้น จึงมีนักศึกษาสนใจเข้าสมัครเรียนกันมาก การสมัครเข้าเรียนจึงยากพอสมควร และสถาบันบางแห่งไม่เปิดหลักสูตรแบบนี้สำหรับนักศึกษาต่างชาติ ดังนั้นการสมัครเรียนจึงควรตรวจสอบก่อนว่าหลักสูตรนั้นรับนักศึกษาต่างชาติเข้าเรียนหรือไม่
การคิดคะแนน มหาวิทยาลัยในประเทศแคนาดา คิดคะแนนเป็น % และคะแนนผ่านคือ 50%
การส่งใบสมัครและเอกสารประกอบการสมัครสถานศึกษา
เมื่อได้รับใบสมัครแล้วควรกรอกข้อความด้วยความระมัดระวัง ครบถ้วน สะอาด เรียบร้อย และส่งไปยังสถานศึกษานั้นๆ โดยตรงพร้อมทั้งแนบเอกสารต่างๆ เหล่านี้ด้วย คือ
- หลักฐานการศึกษาภาษาอังกฤษฉบับจริง (Official Transcript)
- จดหมายรับรองของอาจารย์ผู้สอน / อาจารย์ที่ปรึกษา 2 3 ท่าน (Letters of Recommendation)
- หลักฐานการเงินของผู้ปกครอง (Financial Statement) (ในกรณีที่สถานศึกษาต้องการ)
- ใบรับรองสุขภาพจากแพทย์ (ในกรณีที่สถานศึกษาแนบมากับใบสมัคร)
- เรียงความประวัติส่วนตัวของนักเรียน ทั้งประวัติการศึกษาที่ผ่านมาและโครงการศึกษาต่อในแคนาดา ความตั้งใจ เป้าหมายในการศึกษา
- รูปถ่ายของนักเรียน
- สำเนาผลการสอบต่างๆ คือ TOEFL GMAT GRE SAT อย่างละ 1 ฉบับ แล้วแจ้งให้
Educational Testing Service (ETS) ส่งผลการสอบฉบับจริงโดยตรงไปยังสถานศึกษาต่อไป เมื่อสถานศึกษาได้เอกสารต่างๆ ครบก็จะพิจารณาแล้วแจ้งผลให้นักเรียนทราบ
Application Deadline : มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะหมดเขตรับสมัคร
วันที่ 1 มีนาคม สำหรับ ภาคแรก
วันที่ 1 ตุลาคม สำหรับ ภาคสอง
|